top of page
Search
sherothailand

รู้จักกับ Verbal abuse หนึ่งในความรุนแรงที่ไม่ควรมองข้าม

แน่นอนว่าการใช้คำพูดสามารถทำร้ายจิตใจผู้ฟังได้ในบางครั้ง และอาจเกิดขึ้นจากความตั้งใจของใครหลาย ๆ คน การทำร้ายจิตใจทางคำพูดหรือทารุณทางวาจา (Verbal abuse)นั้น แม้ว่าจะไม่ก่อให้เกิดบาดแผลตามร่างกายหรือความเจ็บปวดที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่อาจสร้างบาดแผลให้กับจิตใจของที่จะอยู่กับผู้ถูกกระทำในระยะยาวไปอีกนาน


วันนี้เรามาดูกันถึงความหมายของการทำร้ายจิตใจทางคำพูด (Verbal abuse) และแบบไหนที่เรียกว่าความรุนแรงทางคำพูด เพื่อป้องกันและช่วยให้เราสามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญความรุนแรงรูปแบบดังกล่าวได้


Verbal abuse คืออะไร?

การทำร้ายจิตใจทางคำพูดเป็นหนึ่งในรูปแบบของการทำร้ายที่พบได้ในทุกความสัมพันธ์และในทุกสังคม โดยมักจะมาในรูปแบบของการใช้คำพูดเพื่อทำร้ายความรู้สึก เพื่อควบคุมหรือทำให้ผู้ฟังรู้สึกต้อยต่ำ ลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ ทำเพื่อให้รู้สึกโง่ ไม่มีค่า


ซึ่งสิ่งที่จะช่วยแยกระหว่างการถกเถียงความขัดแย้งทั่วไปกับการทำร้ายจิตใจด้วยคำพูด ได้แก่

  • การถกเถียงทะเลาะด้วยความขัดแย้งทั่วไปจะไม่เกิดขึ้นติดกันทุกวัน มักไม่ใช่การเอาชนะอีกฝ่าย ไม่เกิดการข่มขู่หรือลงโทษกันในภายหลัง

  • การถกเถียงทะเลาะจะจบลงอย่างรวดเร็ว ไม่ยืดเยื้อ กินเวลาน้อย


ส่วนการทำร้ายจิตใจทางคำพูดจะมาในรูปแบบของการใช้คำพูดดูถูกหรือทำให้ผู้ถูกกระทำอับอาย หากอีกฝ่ายเกิดความรู้สึกเสียใจ ผู้กระทำก็จะโทษว่าเป็นเพราะความอ่อนแอของผู้ถูกกระทำเอง และตัวผุ้กระทำแค่พูดเล่นเท่านั้น และผู้กระทำยังอาจตะคอกบ่อยครั้ง ชอบชวนทะเลาะอย่างไม่มีสาเหตุและวนเวียนไม่รู้จบ ใช้คำพูดปั่นหัว ข่มขู่ วิพากษ์วิจารณ์ ทำให้ผู้ถูกกระทำรู้สึกผิดและให้ตัวเองรับบทเหยื่อแทน อีกทั้งผู้กระทำบางคนยังทวงบุญคุณ อ้างว่าตนเองดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ลงมือทำร้ายร่างกายผู้ถูกกระทำอีกด้วย


Verbal abuse ส่งผลต่อผู้ถูกกระทำอย่างไร?

การทำร้ายจิตใจด้วยคำพูดอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประสิทธิภาพในการทำงานหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน และหากผู้ถูกกระทำถูกทำร้ายจิตใจด้วยคำพูดติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจได้ อาทิ

  • รู้สึกผิด สิ้นหวังและละอายใจ

  • เกิดภาวะวิตกกังวลหรือภาวะซึมเศร้า

  • เกิดภาวะเครียดเรื้อรัง

  • การรับรู้คุณค่าของตนเองลดลง

  • เกิดอาการผิดปกติทางจิตใจหลังจากประสบสถานการณ์รุนแรง (PTSD)

  • มีภาวะตัดขาดจากสังคม อันเนื่องมาจากความผิดปกติทางอารมณ์และความมั่นใจในตัวเองที่ลดลง

  • มองโลกในแง่ร้าย โทษตัวเอง

  • มองว่าความรุนแรงที่เกิดกับตนเป็นเรื่องปกติ เพราะตนเองถูกกระทำมาเป็นเวลานาน อาจมีแนวโน้มหรืออาจกลายเป็นผู้ส่งต่อความรุนแรงกระทำในอนาคต


ทำอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับ Verbal abuse

หากสังเกตเห็นหรือรู้สึกว่าตนเองกำลังเผชิญกับผู้ที่ทำร้ายจิตใจด้วยคำพูด ควรเชื่อในความรู้สึกของตนเอง ว่าตนเองรู้สึกแย่ รู้สึกถูกทำร้าย ซื่อสัตย์และให้ความสำคัญกับความคิดนั้น ตระหนักว่าไม่จำเป็นต้องพยายามหาเหตุผลหรือความชอบธรรมให้กับพฤติกรรมของผู้กระทำควรหาเหตุผลในการทำร้ายให้กับผู้กระทำ หรือคิดว่าพฤติกรรมของตนเองไม่ใช่ข้ออ้างหรือใบบนุญาตให้ผู้กระทำกระทำความรุนแรง ตนเองสมควรโดนทำร้าย หันกลับมาดูแล ใส่ใจความรู้สึกของตนเอง ยอมรับ ทำความเข้าใจรับรูถึงรู้เท่าทันความเครียด ความวิตกกังวลและอารมณ์ต่าง ๆ และหาเวลาดูแลสุขภาวะของตนเองคลายเครียดระหว่างวันอยู่เสมอ และหากสามารถทำได้ อาจพูดคุยกับผู้กระทำโดยตรงถึงขอบเขตของการใช้คำพูดในการวิจารณ์ การดูถูกหรืออื่น ๆ


สิ่งที่จะช่วยได้มากอีกอย่างหนึ่งคือการให้กำลังใจ คุณค่า และความภูมิใจกับตัวเองนอกจากนี้ ยังควรเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเราาทุกคนมีคุณค่า ควรได้รับสิ่งที่ดี ค่อย ๆ ถอยห่างออกจากผู้กระทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรืออาจพูดคุยกับเพื่อน ครอบครัว ผู้เชี่ยวชาญอย่างจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อขอคำปรึกษาและรับความช่วยเหลือ เพื่อให้สามารถรับมือและบรรเทาได้อย่างเหมาะสม

หากสามารถทำได้ อาจวางแผนกับผู้ไว้ใจหรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเตรียมหาวิธีพูดคุยกับผู้กระทำโดยตรงว่าสิ่งที่เขากระทำนั้น เป็นความรุนแรง และเขาควรหยุดการกระทำนั้นโดยทันที


Reference



12,207 views0 comments

Kommentare


bottom of page