top of page
Search

Do's & Don'ts ข้อควรทำและข้อห้ามในการทำงานกับผู้ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว



ข้อควรทำ (Do)

· เข้าหาด้วยความระมัดระวังและเคารพหลักการรักษาข้อมูลความลับของผู้เสียหาย

· ใช้หลักผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง (Survivor-centred approach)

· รับฟังอย่างตั้งใจในระหว่างที่ผู้เสียหายกำลังจะเล่าเหตุการณ์ ให้พื้นที่และให้อำนาจกลับคืนสู่ผู้เสียหายแล้วแต่ว่าเขาอยากจะเล่ามากน้อยเพียงใด

· ย้ำเตือนว่ามันไม่ใช่ความผิดของผู้เสียหาย เน้นย้ำถึงความรับผิดชอบของผู้กระทำ

· อธิบายขั้นตอนวิธีการช่วยเหลือที่ผู้เสียหายสามารถเข้าถึงได้ด้วยภาษาที่ง่ายและตรงไปตรงมา

· จัดลำดับความสำคัญให้กับความต้องการของผู้เสียหาย

· แสดงความกังวลและห่วงใยถึงสวัสดิภาพของผู้เสียหายและลูก เสริมกำลังผู้เสียหายด้วยข้อมูลที่เพิ่มทางเลือกให้พวกเขา

· ตระหนักถึงทัศนคติ ประสบการณ์ และการตอบสนองต่อความรุนแรงของตนเองอยู่เสมอ การไม่เห็นด้วยกับการกระทำและหรือทัศนคติของผู้เสียหายนั้นไม่ผิดตราบใดที่การแสดงออกยังคงเป็นกลาง เอาใจใส่ และเข้าอกเข้าใจ

· ช่วยให้ผู้เสียหายเข้าใจความอันตรายและรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ของความรุนแรง

· สนับสนุนให้ผู้เสียหายขยับก้าวเล็กๆ ซึ่งจะนำไปสู่อิสระและสร้างความมั่นใจในตนเอง

· คำนึงถึงปัจจัยด้านค่านิยมและความเชื่อทางวัฒนธรรมในสังคมอยู่เสมอ

· ช่วยตั้งคำถามกระตุ้นให้ผู้เสียหายที่ใช้ความเชื่อทางศาสนาสร้างความชอบธรรมให้กับความรุนแรงได้ฉุกคิดทบทวน

· แสดงออกถึงความเป็นห่วงในความปลอดภัยของผู้เสียหายและเคารพเหตุผลของพวกเขาหากเลือกที่จะอยู่ต่อ (ในบางกรณีการแยกผู้เสียหายออกจากผู้กระทำอาจเป็นเรื่องอันตรายต่อตัวผู้เสียหายเอง)

· อธิบายบทบาทของคุณกับผู้ถูกระทำให้ชัดเจน ซื่อตรงกับผู้เสียหายในสิ่งที่คุณสามารถและไม่สามารถกระทำให้ได้

· ตระหนักว่าการแสดงออกและการตอบสนองของผู้เสียหายอาจเปลี่ยนแปลงได้บ่อยและไม่สามารถคาดเดาได้ โดยการตอบสนองอาจเกิดขึ้นตั้งแต่การต่อต้านจนถึงการให้ความร่วมมือ

· แสดงความกังวลหากสถานการณ์มีความร้ายแรงถึงชีวิตและกระทำในสิ่งที่ควรกระทำ

· คาดการณ์ได้เมื่อผู้เสียหายและผู้กระทำเข้าสู่วงจรฮันนีมูน (Honeymoon period) ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้เสียหาย

· ตั้งคำถามกับการอธิบายภาพเหตุการณ์ของผู้เสียหายและถามอย่างตรงไปตรงมาว่าคู่ของพวกเขามีการทำร้ายร่างกาย/จิตใจหรือไม่ ซึ่งการเข้าหาต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวังและไม่มีลักษณะของการข่มขู่คุกคาม

· อดทนและซื่อตรงต่อผู้เสียหายโดยเฉพาะกับประเด็นข้อมูลที่เป็นความลับ (Confidentiality)

· ดูแลสุขภาวะของตัวเองให้ดี มีขอบเขต (Boundaries) ในการทำงาน



ข้อที่ไม่ควรทำ (Don’t)

· ไม่ควรคิดไปเองว่าผู้เสียหายตระหนักถึงทางเลือกและความช่วยเหลือที่พวกเขาสามารถเข้าถึงได้

· ไม่ควรโถมกระหน่ำข้อมูล ตัวเลือก สิ่งที่ต้องตัดสินใจและความช่วยเหลือต่างๆ ให้ผู้เสียหายในคราวเดียว

· ไม่ควรตั้งคำถามกับผู้เสียหายว่าเหตุใดจึงยังทนอยู่ คำถามประเภทนี้มีนัยที่สื่อว่าผู้เสียหายนั้นผิดที่ยังทน การออกมาไม่ใช่หนทางแก้ปัญหาเสมอไป

· ไม่ตัดสินสิ่งต่างๆ โดยยึดเพียงชุดความคิดของตนเอง การแสดงออกของคุณสามารถส่งผลต่อการตอบสนองของผู้เสียหายได้อย่างมาก

· ไม่ตัดสินการเลือกคู่ครองของผู้เสียหาย

· ไม่ควรคาดหวังให้ผู้เสียหายประดิษฐ์ภาพความรุนแรงเกินความจริง

· ไม่ควรพยายามช่วยเหลือผู้เสียหายด้วยตัวเองโดยพลการ

· ไม่ควรตัดสินว่าผู้เสียหายต้องเป็นเหมือนกันหมด

· ไม่ควรต่อต้านหรือเพิกเฉยหากผู้เสียหายยึดความเชื่อทางศาสนา

· ไม่แสดงออกถึงความผิดหวังเมื่อพวกเขาเลือกที่จะอยู่ต่อ การกระทำแบบนี้อาจดึงความรู้สึกของการล้มเหลวและความรู้สึกไร้ค่าของผู้เสียหายออกมา

· ไม่ผูกตนเองเข้ากับบทบาทของผู้ให้คำปรึกษาชีวิตคู่ ผู้ไกล่เกลี่ย และหรือกระทั่งผู้เป็นกรรมการชี้ขาดในความสัมพันธ์

· ไม่ควรชี้นำผู้เสียหายให้ไกล่เกลี่ยเพื่อกลับมาคืนดีกับผู้กระทำ

· ไม่ควรยึดติดกับทัศนคติครอบครัว (Family-centric) ต้องอยู่ด้วยกัน

·ไม่ควรถางถางหรือเหยียดยามความล้มเหลวของผู้เสียหายที่ไม่สามารถปฏิบัติหรือตอบสนองต่อเหตุการณ์ในแนวทางที่คุณคิดว่ามันควรเป็นได้ ความฉุนเฉียวของคุณอาจหมายถึงการกล่าวโทษผู้เสียหายและส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเข้าหาผู้เสียหาย

· ไม่ควรเพิกเฉยต่อสัญญาณอันตรายที่อาจเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ความรุนแรง

· ไม่ควรคาดหวังให้ผู้เสียหายตัดสินใจในทันทีหรือกระทั่งผลักดันความคาดหวังที่เกินจริงของผู้เสียหาย

· ไม่ควรตัดสินใจแทนผู้เสียหาย

· ไม่ควรทำตัวเป็นนักบุญมาโปรดสัตว์หรือทำตัวมีบารมีสูงส่งกว่ามาเพื่อชี้นำทางแก่ผู้เสียหาย

· ไม่สนับสนุนให้ผู้เสียหายกล่าวโทษตนเองหรือหาเหตุผลมาสร้างความชอบธรรมให้กับความรุนแรง

·ไม่ควรตอบสนองช้าเมื่อมีการแจ้งเหตุการณ์ความรุนแรงเข้ามา จังหวะเวลาคือหัวใจของการรวบรวมข้อมูลหลักฐาน

· ไม่ควรละเลยอาการบาดเจ็บที่ปราศจากคำอธิบายอันมาพร้อมกับเหตุผลที่ดูไม่น่าเชื่อ

· ไม่ควรให้สัญญาในสิ่งที่คุณทำไม่ได้



ขอขอบคุณทีมอาสาสมัครองค์กรชีโร่

Translator: Kingkarn Tonkrongchan

Editor/Graphic design: Nudchanard Kammee


อ้างอิง UNC (2021). Do's & Don'ts of Handling Domestic Violence Victims.

ปรับปรุงเนื้อหาเพิ่มเติมโดย SHero Thailand


อ่านคู่มือที่น่าสนใจสำหรับการทำงานจัดการเคสความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ (GBV Management) ฉบับภาษาอังกฤษ ได้ที่นี่


สามารถติดตามSHero Thailand ได้ทั้งทางช่องทาง Facebook, Twitter, และ Instagram



451 views0 comments
bottom of page